ใช่ ….. ฉันทำงานอะไร? ถามตัวเองเหมือนกัน 😂 มาร์เกตติ้งแหละ… คืออะไร? แบบใด? ยังไง? …. จริงๆมันไม่ได้อธิบายง่ายเลยนะ ก็เลยบอกสุ่มๆ ไปว่าขายของออนไลน์ 555555
ซึ่งมันก็คือการขายของ (เซอร์วิส) บนแพลตฟอร์มออนไลน์จริงๆ! และสาเหตุที่มันเป็นดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งซะส่วนมาก ก็เพราะขั้นตอนการดำเนินงานทุกอย่างเกิดขึ้นออนไลน์เกือบทั้งหมดเลย
บทความนี้เลยเขียนเพื่อความบันเทิงล้วนๆ ไม่มีมีสาระเนื้อหาที่สามารถส่งต่อเป็นความรู้อะไรได้เลย แบ่งออกเป็น 2 พาร์ทละกัน
Part 1: ส่วนของงาน
ขายของออนไลน์อะถูกต้องแล้ว แต่ไม่เชิงว่าขายสินค้าเป็นชิ้นเป็นอัน อย่างเช่น ขายกระเป๋าในลาซาด้า > มีออเดอร์ > แพ็คของส่ง 📦
ที่ทำอยู่ทุกวันนี้มันคือการขายเซอวิส/บริการ ในแพลตฟอร์มที่สร้างขึ้นเอง (แบบไม่ผ่านตัวกลางอะ) เป้าหมายหลักก็คือทำให้แพลตฟอร์มนี้ยืนได้ด้วยตัวเอง และในเมื่อสินค้าพร้อมแล้ว แพลตฟอร์มแล้ว ก็เป็นหน้าที่ของมาเก็ตติ้งละ ว่าจะหาลูกค้ามาจากไหน? หาด้วยวิธีไหน? แล้วลูกค้าเป็นใคร? แล้วก็ตอบคำถามทั่วไปว่าแล้วเซอวิสเอ็งอะ มันดีจิงอ้ะป่าว และคำถามอื่นๆ ตามมา
จึงรวมกันเป็นหน้าที่ของฉันและทีม ในการตีโจทย์แตกออกมาเป็นหัวข้อย่อยๆ เช่น
- ลูกค้าไม่รู้จักอะ แกแบรนด์ไรเนี่ย → ก็ต้องทำให้ลูกค้ารู้จัก, เข้าใจ ว่ามีเซอวิสแบบนี้
- ลูกค้ารู้จักละ แต่ไม่มั่นใจเลย จะดีจริงหรือโม้ป่าว → ก็ต้องบอกลูกค้าว่าเซอวิสชั้นมันดีจริงนะะะะ ลองก่อนพี่สาว
- ลูกค้าลองใช้เซอวิสละ แต่ใช้ยากจังไม่เข้าใจเลย → ก็ต้องไปหามาว่าลูกค้าชอบแบบไหน มีพฤติกรรมยังไง แล้วเราจะปรับปรุงยังไงให้มันใช้ง่ายขึ้น
- ลูกค้าบอกแพง ไปใช้แบรนด์อื่นดีกว่า ถูกกว่าเยอะ → ก็ต้องบอกลูกค้าว่า ได้โปรดกลับมาเถอะนะ ของเราดีกว่าแบรนด์อื่นจริงๆ
พอได้โจทย์หลักๆ แบบนี้มา เราก็เอามาย่อยอีกทีนึงแล้วค่อยกำหนดว่าต้องทำอะไรบ้าง, ใช้ทรัพยากรเวลาและลงแรงเท่าไหร่, สุดท้ายก็วัดผลว่าสิ่งที่ทำลงไปมีประสิทธิภาพขึ้นมั้ย
ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด: นาย A เป็นออฟฟิศซินโดรม ปวดหลัง อยากนวดที่บ้าน แต่ไม่แน่ใจว่ามันมีเซอร์วิสนี้อยู่จริงๆ เลยไปเซิจกูเกิล …..2 นาทีผ่านไป ดันเจอว่ามันมีเซอวิสนี้จริงๆ แล้วมีหลายเจ้าด้วย นาย A เลยทำการเปรียบเทียบราคา เช็คความน่าเชื่อถือของหมอนวด ดูรีวิวทั้งในโซเชียลมีเดีย เช็ครีวิวใน App store จนได้ข้อสรุปว่า นาย A จะเลือกใช้บริการกับแบรนด์ B
คำถามคือ ในฐานะ แบรนด์ B เราสามารถเอาตัวเองไปแทรกตรงจุดไหนได้บ้าง เพื่อให้สุดท้ายแล้วนาย A เลือกเรา?
โบ๊ะ ตัดจบ เร็วมาก ย่อยง่าย
Part 2: Daily Work Routine
9:00 — 9:30 : กินข้าวเช้า กินกาแฟ ที่ออฟฟิศ
9:30–12:00 : ทำงานอย่างแข็งขัน มีแอบเล่น foosball บ้าง (ไอเราก็เรียก kicker มาตลอด ตกลงชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่าฟู้สบอลว่ะ)
12:00–13:30 : พักกินข้าวและกินกาแฟอีกรอบนึง ช่วงพักบางทีก็เฮฮาหน่อย มีดูดวงบ้าง เล่นเกมบ้าง ร้องเพลง และอื่นๆ ที่ไม่ใช่การทำงาน 5555
13:30–18:00 : กลับมาทำงานต่อ รอบบ่ายก็จะง่วงๆ หน่อย บางวันก็รู้สึกว่าเวลาผ่านไปช้ามากๆ
จบวันบริบูรณ์ บางวันก็เหนื่อยล้า บางวันก็ไม่เหนื่อย อย่างวันนี้เฉยๆ เลยมีแรงมาเขียน และนี่ก็คือชีวิตปกติของพนักงานออฟฟิศท่านหนึ่ง ซึ่งก็คือฉันเอง